โรงพยาบาลธนบุรี

MRI 3.0 Tesla ดีกว่า 1.5 อย่างไร?

ผู้เขียน

นพ.พีรธัช ศุภปัญญา

 

การตรวจวินิจฉัยด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า หรือ Magnetic Resonance Imaging ที่เราเรียกกันติดปากว่าการตรวจ MRI หลักการตรวจคือใช้สนามแม่เหล็กความเข้มข้นสูงร่วมกับคลื่นความถี่ในการสร้างภาพที่มีความละเอียดสูง ตรวจอวัยวะต่างๆ ในร่างกาย เช่น ระบบสมองและระบบประสาท ระบบหลอดเลือดและหัวใจ หรือระบบกระดูกและกล้ามเนื้อ

 

ข้อดีของการตรวจด้วยเครื่อง MRI
1. ให้ภาพที่สามารถแยกความแตกต่างระหว่างเนื้อเยื่อได้อย่างชัดเจน ซึ่งอาจให้ข้อมูลในการวินิจฉัยโรคบางโรค ได้ดีกว่าเอ็กซ์เรย์คอมพิวเตอร์
2. เป็นการตรวจที่ไม่ใช้รังสีเอกซ์ จึงใช้ตรวจได้อย่างปลอดภัยแม้ในผู้ป่วยเด็กหรือผู้ป่วยตั้งครรภ์
3. ตรวจวินิจฉัยได้แม้ไม่ได้ฉีดสารทึบรังสี
เมื่อนำตรวจเพื่อวินิจฉัยโรคยอดฮิต เช่น ผู้ป่วยโรคสมองขาดเลือด จะทำให้เห็นรอยโรคที่ชัดเจน ซึ่งหากตรวจด้วยเครื่องเอกซ์เรย์คอมพิวเตอร์อย่างเดียวจะไม่รู้เลยว่าป่วยเป็นโรคอะไร การที่ตรวจวินิจฉัยได้อย่างแม่นยำจะทำให้แพทย์ดูแลรักษาผู้ป่วยให้ถูกทาง

 

ข้อจำกัดของการตรวจด้วยเครื่อง MRI
1. การตรวจที่ใช้เวลานานเทียบกับการตรวจเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ คือปกติการตรวจด้วยเครื่อง MRI จะใช้เวลาประมาณครึ่งถึง 1 ชั่วโมง แต่การตรวจเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ใช้เวลาประมาณ 10-15 นาที
2. ผู้ป่วยต้องไปอยู่ในเครื่องมือเป็นเวลานานอาจจะทำให้เกิดความไม่สบายใจ โดยเฉพาะผู้ป่วยที่กลัวที่แคบ
3. ผู้ป่วยที่ไม่สามารถเข้าเครื่องตรวจได้ เช่น มีโลหะฝังในร่างกาย เนื่องจากตัวเครื่องเป็นสนามแม่เหล็กจึงอาจทำให้เกิดอันตรายได้ถ้าเกิดโลหะพวกนั้นเคลื่อนที่
MRI ที่ใช้ในทางการแพทย์ ปัจจุบันแบ่งตามความแรงของสารแม่เหล็ก ได้เป็น 2 รุ่น คือรุ่นที่เป็น 1.5 Tesla และ 3.0 Tesla โดยทางการแพทย์ความแรงของสนามแม่เหล็กแรงสูง ภาพผลตรวจที่ได้จะมีคุณภาพมากขึ้นด้วย

 


ตัวอย่างภาพ ที่ได้จากการตรวจด้วยเครื่อง 1.5 และ 3.0 Tesla เป็นการของผู้ป่วยคนละรายแต่อายุใกล้เคียงกันด้านซ้ายเป็นภาพจากเครื่อง 1.5 Tesla ส่วนด้านขวาเป็นภาพจากเครื่อง 3.0 Tesla จะเห็นได้ว่ารูปสมองทางด้านขวา มีความคมชัดและให้รายละเอียดมากกว่า

 

 


ตัวอย่างภาพ ที่ใช้ตรวจหลอดเลือดฝอยและหินปูนในสมอง ข้างซ้ายเป็น 1.5 และข้างขวาเป็น 3.0 Tesla ให้ความละเอียดของเส้นเลือดฝอยและหินปูนได้อย่างชัดเจนกว่า

 

 


ภาพตัวอย่าง การตรวจหลอดเลือดแดง ด้านซ้าย 1.5 และด้านขวาเป็น 3.0 Tesla รูปด้านขวามีความคมชัดมากกว่ารูปด้านซ้ายชัดเจน แล้วยังเห็นเส้นเลือดฝอยเล็กๆ ส่วนกลางซึ่ง 1.5 ไม่สามารถแสดงให้เห็นได้ข้อมูลเล็กๆน้อยๆ เหล่านี้ทำวินิจฉัยได้อย่างตรงจุดมากขึ้น

 

 

โรคไหนบ้างที่ได้รับประโยชน์จากการตรวจ MRI ยกตัวอย่างเช่น โรคระบบประสาท อาการเหล่านี้พบได้บ่อยซึ่งหลายๆ คนอาจจะเคยมีอาการเช่นนี้ อาการปวดประสาท อาการเดินเซ อาการแขนขาอ่อนแรงพูดไม่ชัด อาการที่มีความจำแย่ลง หรือว่าปวดหลังร้าวลงขา หรือรวมถึงโรคที่เกี่ยวข้องกับกระดูกและข้อ และโรคหัวใจ
หากท่านมีอาการใดๆ ควรรีบไปพบแพทย์เฉพาะทางทางด้านนั้นๆ ในโรงพยาบาลที่มีเครื่อง MRI ทั้งนี้แพทย์เฉพาะทางจะเป็นผู้เลือกการส่งตรวจตามความเหมาะสม สำหรับโรงพยาบาลธนบุรี มีแพทย์เฉพาะทางทุกสาขา และมีเครื่อง MRI 3 Tesla เพื่อใช้วินิจฉัยและวางแผนการรักษา