สาเหตุที่ทำให้สีฟันเปลี่ยนแปลงไปพร้อมทั้งการแก้ไข
มีหลายสาเหตุที่ทำให้สีฟันเปลี่ยนแปลงไป
การเปลี่ยนแปลงที่เกิดบนผิวเคลือบฟันจากการรับประทานอาหารและเครื่องดื่มที่มีสีจัด การสูบบุหรี่ ป้องกันและแก้ไขได้โดยการแปรงฟัน การขูดหินปูนและขัดฟัน การเปลี่ยนแปลงที่เกิดกับโครงสร้างของฟัน จากการได้รับยาบางชนิดในระยะที่มีการสร้างฟัน เช่น TETRACYCLINE ทำให้ฟันมีสีเหลือง น้ำตาล เทา หรือดำ การได้รับฟลูออไรด์มากเกินไป ทำให้ผิวฟันมีรูพรุน สีขาวขุ่น เหลือง หรือน้ำตาล และอีกปัจจัยหนึ่งก็คือ อายุ เนื่องจากเมื่ออายุสูงขึ้น เคลือบฟันจะบางลง ทำให้สีต่างๆ ของเนื้อฟันที่มีอยู่ เห็นได้ชัดเจนขึ้น ทั้งหมดนี้แก้ไขได้ด้วยการฟอกสีฟัน การทำแผ่นเคลือบด้านหน้าฟัน การทำครอบฟันตามลำดับความยากของสี และสภาพฟันที่จะแก้ไข
การฟอกสีฟันโดยทันตแพทย์ จะให้ผลเร็วเพราะมีการฟอกสีฟันในคลินิกร่วมด้วย และสามารถควบคุมการใช้ยาที่นำกลับไปใช้ฟอกสีฟันที่บ้านได้ดีกว่า เนื่องจากทันตแพทย์ จะทำถาดเครื่องมือขึ้นเฉพาะสำหรับผู้ป่วยในแต่ละราย ถาดจะแนบสนิทกับฟัน เป็นการลดการใช้ยาเกินปริมาณที่จำเป็นและยาจะไม่รั่วออกไปสัมผัสกับเนื้อเยื่ออื่นในช่องปากและถ้าเกิดอาการเสียวฟันในระหว่างการฟอกสีฟันทันตแพทย์จะเป็นผู้ปรับเปลี่ยนการใช้ความเข้มข้นของยา ระยะเวลารวมทั้งการใช้ฟลูออไรด์ร่วมด้วย
ข้อปฏิบัติก่อนฟอกสีฟัน
ผู้ป่วยควรได้รับการขูดหินปูน ขัดฟัน ก่อนฟอกสีฟัน
ผู้ป่วยควรได้รับการอุดฟัน ก่อนฟอกสีฟัน ในกรณีมีฟันผุ หรือคอฟันลึก
ผู้ป่วยบางรายอาจได้รับยาแก้ปวด หรือได้รับคำแนะนำให้ใช้ยาสีฟันลดอาการเสียวฟันก่อนทำการฟอกสีฟัน
ข้อปฏิบัติหลังฟอกสีฟัน
ผู้ป่วยควรหลีกเลี่ยง อาหารประเภทมีสี เช่น น้ำอัดลม กาแฟ ชา ผัดน้ำพริกเผา ไวน์แดง ในช่วง 1-2 สัปดาห์หลังฟอกสีฟัน
หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่ 1-2 สัปดาห์หลังฟอกสีฟัน
แปรงฟันให้สะอาดมากๆ ในช่วง 1-2 สัปดาห์หลังฟอกสีฟัน เพราะช่วงดังกล่าวฟันจะมีการติดคราบได้ง่าย