การปฏิบัติตัวหลังผ่าตัดช่องท้อง
- หลังการผ่าตัด ผู้ป่วยจะได้รับการตรวจวัดอุณหภูมิ ชีพจร การหายใจและความดันโลหิตเป็นระยะจนกว่าสัญญาณชีพจะอยู่ในเกณฑ์ปกติ เพื่อความปลอดภัยของผู้ป่วยหลังผ่าตัด
- ผู้ป่วยจำเป็นจะต้องงดน้ำและอาหารหลังผ่าตัด และ ได้รับสารน้ำและอาหารทดแทนทางเส้นเลือด เมื่อแพทย์ประเมินว่าลำไส้เริ่มทางาน จะเริ่มทดลองให้จิบน้ำ รับประทานอาหารเหลว เช่น น้ำข้าว ซุปใส และ ปรับเพิ่มเป็น โจ๊ก และข้าวต้มตามลาดับ
- หลังผ่าตัดจะจัดท่านอนศีรษะสูงเล็กน้อยและตะแคงหน้า เพื่อป้องกันไม่ให้อาเจียนหรือลิ้นไปอุดกั้นทางเดินหายใจ
- หากผู้ป่วยรู้สึกตัว ให้เริ่มพลิกตะแคงตัวและฝึกหายใจ โดยหายใจเข้า-ออก ลึก ๆ ยาว ๆ และหากมีอาการไอ ให้ใช้หมอนกดบริเวณหน้าท้องเบา ๆ ขณะไอ เพื่อช่วยลดแรงสะเทือนจากการไอ ทำให้ปวดแผลลดลง
- หากรู้สึกปวดแผลผ่าตัด หรือคลื่นไส้ อาเจียนให้แจ้งพยาบาล เพื่อให้ยาลดอาการดังกล่าว
- บางรายมีสายใส่ผ่านจมูกสู่กระเพาะอาหาร เพื่อช่วยระบายลม น้ำย่อย หรือมีสายสวนปัสสาวะ ระวังอย่า ให้เลื่อนหลุด หรือพับงอ ขณะพลิกตัว หรือเปลี่ยนท่า
- หลังผ่าตัด 24 ช.ม. ถ้าผู้ป่วยไม่มีอาการแทรกซ้อนใด ๆ ให้เริ่มลุกนั่งบนเตียง โดยให้นอนตะแคงแล้ว ใช้ข้อศอกยันตัวลุกนั่ง จากนั้นให้ลงมายืนข้างเตียง เดินรอบเตียง และเดินไกลขึ้นตามลาดับ เนื่องจากการลุกจากเตียงได้เร็วจะช่วยให้ระบบไหลเวียนโลหิตดีขึ้น และลาไส้มีการเคลื่อนไหว ทาให้ลำไส้ทำงานได้ดี ลดอาการอืด แน่นท้อง ท้องผูก ทาให้ผู้ป่วยฟื้นตัวได้เร็ว และกลับบ้านได้เร็วขึ้น
การปฏิบัติตัวเมื่อกลับบ้าน
- กรณีที่แผลผ่าตัดยังไม่ตัดไหม หรือมีท่อระบายจากบาดแผลในช่วงแรก ระมัดระวังอย่าให้แผลถูกน้ำ ทำแผลตามแพทย์สั่งที่โรงพยาบาลหรือคลินิคใกล้บ้าน
- กรณีที่แผลผ่าตัดปิดพลาสเตอร์กันน้ำ ผู้ป่วยสามารถอาบน้ำได้ แต่ไม่ควรฟอกสบู่หรือถูบริเวณบาดแผล เพราะจะทำให้พลาสเตอร์เผยอ และน้ำซึมเข้าแผล
- แผลผ่าตัดจะได้รับการตัดไหม หลังผ่าตัด 7-10 วัน และถูกน้ำได้หลังตัดไหม 2 วัน
- กรณีแผลเปียกน้ำ ให้รีบมาพบแพทย์ที่โรงพยาบาล หรือคลินิคใกล้บ้าน เพื่อทำความสะอาดบาดแผล และเปลี่ยนผ้าปิดแผลใหม่
- รับประทานยาตามแพทย์สั่ง ไม่ควรซื้อยารับประทานเอง เมื่อยาหมด
- รับประทานอาหารครบ 5 หมู่ ดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 8-10 แก้ว
- ขับถ่ายให้เป็นเวลา ไม่กลั้นอุจจาระหรือปัสสาวะ ระวังอย่าให้ท้องผูก
- ทำกิจวัตรประจาวันได้ตามปกติ ยกเว้นการยกของหนัก หลังผ่าตัด 1-3 เดือน
- พักผ่อนให้เพียงพอ วันละ 6-8 ชั่วโมง
- มาพบแพทย์ตามนัด หากมีอาการผิดปกติต่อไปนี้ เช่น ปวดแผล มีไข้ แผลผ่าตัดบวมแดงร้อน มีน้ำเหลือง หรือหนองซึมจากแผล ท้องอืด คลื่นไส้ อาเจียน ให้รีบมาพบแพทย์ก่อนนัด